สำหรับคนไทยนั้นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยก็จะเป็นมวยไทย การต่อสู้ในแบบฉบับ การใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก จัดว่าเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยเป็นอย่างมาก การสร้างหนังของคนไทยก็จะเน้นการต่อสู้โดยใช้มวยไทยเป็นที่ตั้ง แล้วตอนนี้มวยไทยก็ดังไปทั่วโลกถึงขนาดมีการจัดสร้างการชกมวยไทยขึ้นชิงแชมป์ระดับโลก ก่อนหน้าที่จะมีพี่บัวขาวที่เป็นแชมป์มวยไทยระดับโลก การประกาศกล้องของประเทศไทยซื้อของมวยไทยนั้นก็มาจาก พี่โทนี่จาหรือจาพนมนั่นเอง ใครที่เคยดูหนังของพี่โทนี่จาก็จะรู้ดีว่า ทั้งเรื่องนั้นจะเน้นการใช้เมืองไทยเป็นหลัก
และทางของประเทศจีนก็เช่นกัน การใช้กำลังภายในถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมาก คนจีนนั้นจะเน้นฝึกร่างกายเรื่องกําลังภายใน แล้วตามด้วยการใช้อาวุธอย่างอื่นตามมา การสร้างหนังก็เริ่มพัฒนาในเรื่องของการใช้กำลังภายในด้วยเช่นกัน หนังกำลังภายในของชิ้นนั้นแต่ก่อน จะมีเพียงแค่เหาะเหินเดินอากาศเท่านั้น การจะปล่อยพลังภายในแต่ละครั้ง หรือการใช้กำลังภายในแต่ละครั้ง เราเดาออกได้เลยว่าเวลาที่เราดูหนัง เราจะไม่เห็นกำลังเหล่านั้นจะเห็นเพียงแค่ลมพัดหรือมีพายุ แต่การสร้างหนังกำลังภายในรุ่นใหม่ มีทั้งลมพายุและมีทั้งแสง บางครั้งเราดูหนังพี่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกมากๆ การใช้วิทยายุทธของเขาเหล่านั้น ก็สามารถที่จะควบคุมดินฟ้าอากาศ สามารถควบคุมน้ำให้กลายเป็นอาวุธได้ด้วยเช่นกัน
แต่การต่อสู้ของหนังกำลังภายในนั้นจะมีเพียงแค่ไม่กี่ข้อ คนดูหนังจะรู้ดีว่าหัวข้อหลักที่เกี่ยวกับอาหารประเภทนี้นั่นคือ ฝึกวิชาเพื่อการล้างแค้น ไม่ก็ฝึกวิชาเพื่อที่จะครองยุทธภพ หนังจีนกําลังภายในเนื้อหาหลักจะมีแค่ 2 อย่างนี้เท่านั้น จะเน้นการขาย special effect เสียงมากกว่า ยิ่งตอนหลัง เราไม่ได้ดูหนังเพื่อที่จะเห็นแต่เพียงการต่อสู้เท่านั้น เรายังดูหนังให้มันสมจริงด้วยระบบ 3D กันอีกด้วย การปล่อยพลังของคู่ต่อสู้หรือปล่อยพลังต่อสู้กัน ถ้าเราดูแลระบบ 3D หรือ 3 มิติ บางครั้งเราเหมือนว่ากำลังนั่งอยู่ระหว่างการต่อสู้เสียด้วยซ้ำ
หนังจีนกำลังภายในจะกลับมาสู่โลกภาพยนตร์อีกครั้ง ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกเป็นหลัก การต่อสู้ที่ไหนจินตนาการ คนธรรมดาสามารถต่อสู้กับเทพได้ คนธรรมดาสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ ดูหนังเหล่านี้แล้วเราก็อยากจะมีพลังแบบนั้นกันบ้าง เราคงเคยได้ยินเรื่องเล่าของวัดเส้าหลินกันมา ในความเป็นจริงวัดเส้าหลินนั้นฝึกตนฝึกร่างกายให้มีความแข็งแรงแข็งแกร่ง แต่ในหนังที่เราดูกันนั้นมันมากเกินกว่าที่เรารู้จักกันมาเสียอีก หลายครั้งที่มีการก็ลองพละกำลังหรือท้าประลองกัน ระหว่างมวยจีนกับมวยไทย ก็เกือบจะเป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ แต่เราคงไม่กล่าวพาดพิงไปถึงขนาดนั้น เพราะในหนังก็คือในหนังความเป็นจริงก็คือความเป็นจริง ใครที่ฝึกมากกว่าก็ย่อมเป็นผู้ชนะ
ดูหนังเกย์แค่ความบันเทิง เราไม่สามารถที่จะเรียนแบบหนังได้ เพราะในหนังนั้นคือการสร้างด้วยจินตนาการไม่ได้สั่งจากความเป็นจริง